ทำไมบล็อกเชนยังรู้สึกเหมือนอยู่ในช่วงทดสอบ

สิบปีที่แล้ว บิตคอยน์เป็นเพียงเอกสารไวท์เปเปอร์ลึกลับของซาโตชิ นากาโมโต้ วันนี้ มันกลายเป็นระบบนิเวศมูลค่ากว่า 600 พันล้านดอลลาร์ แต่เรายังคงต่อสู้กับปัญหาการปรับขนาดที่อาจทำให้สคริปต์ Python อาย

1. กลไกฉันทามติ: การแชทกลุ่มของนายพลไบแซนไทน์

PoW? กินพลังงานแต่ผ่านการทดสอบมาแล้ว PoS? มีประสิทธิภาพแต่เสี่ยงต่อการปกครองโดยคนรวย (มองคุณอยู่ Ethereum 2.0) โมเดลไฮบริดเช่น BABE/GRANDPA ของ Polkadot สัญญาว่าจะสร้างสมดุล แต่ผู้พัฒนารู้ดีว่า ‘ไฮบริด’ มักหมายถึง ‘พื้นที่โจมตีสองเท่า’

2. อุปสรรคข้ามเชน: เหมือน SMS ระหว่าง iPhone และ Android

IBC ของ Cosmos และพาราเชนของ Polkadot พยายามเป็นหินโรเซตตาของบล็อกเชน แต่การทำงานร่วมกันยังคงยุ่งเหยิง Atomic swaps ใช้งานได้สำหรับการเทรดง่ายๆ แต่ลองย้าย NFT ข้ามเชนดูสิ โดยไม่ต้องกังวลกับค่าธรรมเนียมแก๊ส ส่วน ‘สะพานที่น่าเชื่อถือ’ ฟังดูปลอดภัยเหมือนประตูตาข่ายบนเรือดำน้ำ

3. สัญญาอัจฉริยะ: รหัสคือกฎหมาย… จนกระทั่งมันพัง

Solidity ของ Ethereum ให้กำเนิด DeFi แต่ก็รวมถึงการแฮ็ก The DAO ด้วย (บทเรียน 60 ล้านดอลลาร์: ตรวจสอบ reentrancy ให้ดี) เชนใหม่ๆ ใช้ WASM เพื่อความยืดหยุ่น แต่การตรวจสอบยังคงติดอยู่ในโหมด ‘คอมเมนต์โค้ดและภาวนา’

4. ความเป็นส่วนตัว vs. การกำกับดูแล: บันทึกประจำวันของชเรอดิงเงอร์

zk-SNARKs ของ Zcash ซ่อนธุรกรรมได้ดีกว่า VPN ซ่อนการดู Netflix แต่ผู้กำกับต้องการแบ็กดอร์ เพราะไม่มีอะไรบอกว่า ‘บันทึกที่ไม่เปลี่ยนแปลงได้’ เหมือนกับการมีกุญแจหลักของรัฐบาล