จากอักษรภาพสู่การเข้ารหัส: ประวัติศาสตร์คร่าวๆ ของวิทยาการรหัสลับ

วิทยาการรหัสลับไม่ได้มีไว้สำหรับสายลับหรือแฮกเกอร์เท่านั้น—มันเป็นเสาหลักของทุกธุรกรรมบล็อกเชน ย้อนกลับไปเมื่อ 1900 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีการแกะสลักสัญลักษณ์การเข้ารหัสครั้งแรกในสุสานของ Khumhotep II ก้าวไปข้างหน้าในปี 1976 เมื่อ Diffie และ Hellman ปฏิวัติวงการด้วยระบบการเข้ารหัสแบบกุญแจสาธารณะ ซึ่งแยกกุญแจการเข้ารหัสและถอดรหัสออกจากกัน วันนี้ สกุลเงินดิจิทัลเช่น Bitcoin ใช้ฟังก์ชันแฮช (สายอักขระยาวๆ ที่ดูเหมือนไร้ความหมาย) เพื่อรักษาความปลอดภัยของธุรกรรม แต่ถ้าคุณต้องการความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าแฮชล่ะ? นั่นคือจุดที่ zk-SNARKs เข้ามามีบทบาท

ทำความรู้จัก zk-SNARKs: ความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องพูดคุย

Zero-Knowledge Succinct Non-Interactive Argument of Knowledge (ใช่ ชื่อมันยาวมาก) ช่วยให้คุณพิสูจน์ว่าคุณมีข้อมูลบางอย่างโดยไม่ต้องเปิดเผยมัน ลองนึกภาพว่าคุณสามารถโน้มน้าวพนักงานรักษาความปลอดภัยว่าคุณอายุเกิน 21 โดยกระซิบคำสาปทางการเข้ารหัสแทนที่จะแสดงบัตรประชาชน Zcash เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีนี้ในปี 2016 โดยซ่อนรายละเอียดของผู้ส่งและผู้รับขณะที่ใช้งานบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ของ Bitcoin วิธีการคืออะไร? โดยการวาง zk-SNARKs บนชั้นของแฮชบล็อกเชน—เหมือนกับโหมดล่องหนสำหรับธุรกรรมของคุณ

เกินกว่าสกุลเงินแบบไม่เปิดเผยตัวตน: อนาคตของ zk-SNARKs

สกุลเงินเพื่อความเป็นส่วนตัวเป็นเพียงจุดเริ่มต้น โครงการเช่น Celo ใช้ zk-SNARKs เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้มือถือกับบล็อกเชนทันที—ไม่จำเป็นต้องใช้ MetaMask แม้แต่นักตรวจสอบบัญชีระดับ Big Four อย่าง EY ก็เข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการเปิดตัว Nightfall สำหรับข้อตกลงทางธุรกิจส่วนตัวบน Ethereum หากยังสงสัยลองคิดดูว่าเหมือนเทปกาวทางการเข้ารหัส: อาจดูยุ่งเหยิงภายใต้พื้นผิว แต่ใช้งานได้ผลดี แค่อย่าคาดหวังว่าจะมีการใช้งานทั่วไปจนกว่าเราจะทำให้เทคโนโลยีนี้ง่ายขึ้น (และอาจจะจ้างนักรหัสศาสตร์ที่ชอบใช้คำย่อน้อยลง)