กฎหมายสตับเบิลคอยน์ฮ่องกง 2025

การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่เปลี่ยนทุกอย่าง

ในเดือนสิงหาคม 2025 ฮ่องกงไม่ได้แค่อัปเดตรules การเงิน—แต่มันกำลังเขียนกฎใหม่สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก โดย พระราชบัญญัติสตับเบิลคอยน์ จะกลายเป็นประเทศแรกที่บังคับใช้การควบคุมเชิงโครงสร้างสำหรับสตับเบิลคอยน์ ไม่ใช่แค่เรื่องนโยบายเล็ก ๆ แต่มันเปิดประตูให้คนธรรมดาอย่างเราเข้าถึงการเงินดิจิทัลอย่างถูกกฎหมาย—not จากแพลตฟอร์มมืดหรือช่องทางนอกชายฝั่ง แต่ผ่านระบบตรวจสอบแล้วและโปร่งใส

สิ่งที่ทำให้มันแตกต่าง?

หลายประเทศยังมองว่าสตับเบิลคอยน์เป็นพื้นที่คลุมเครือ—จนถึงตอนนี้ เมืองฮ่องกงได้วาดรูปเส้นเหล็กสามเส้น: ✅ ข้อกำหนดทรัพยากร: บริษัทไม่ใช่ธนาคารต้องเก็บเงินสดหรือพันธบัตรระยะสั้นจำนวน HK$25 ล้าน ✅ ความรับผิดชอบทางเทคโนโลยี: สัญญาอัจฉริยะจะตรวจสอบเดือนละหนึ่งครั้ง; เซอร์วีรู้สถานะของยอดคงคลังแบบเรียลไทม์ผ่าน Chainlink ✅ ห้ามเสนอผลตอบแทน: Unlike projectsบางแห่งในต่างประเทศที่ให้ดอกเบี้ย 8% ใน ‘เหรียญคงที่’ (เตือนภัย), เครื่องหมายห้ามให้ผลตอบแทน — สตับเบิลคอยน์ไม่มีหน้าตาเป็นบัญชีออมทรัพย์

คนไหนจะได้เข้าร่วม? (ไม่ใช่ใครก็ได้)

โครงการทดลองในปี 2025 มีผู้นำตลาด: JD Coin Chain Tech (JD-HKD), Ant Group, Standard Chartered และ Hong Kong Telecom กับ HKDG แต่น่าสนใจคือ: มีกลุ่ม ผู้ได้ประโยชน์โดยตรง เช่น Bai Sha Da Holdings (01168.HK) — เข้าร่วม Ensembl Sandbox เป็นผู้เก็บรักษาให้ธนาคารใหญ่อย่างธนาคารหลักของฮ่องกง มูลค่าตลาดปัจจุบันเพียง HK$19.7 พันล้าน — และอาจกลายเป็น ‘สายระบบที่ปฏิกิตามกฎ’ ในอนาคต หรือ Sifang Jingchuang (300468.SZ) — พื้นฐานการชำระเงินของ HSBC และ Standard Chartered เพื่อระบบ FINNOSafe มียอดคำขอเติบโตกว่า 230% ในไตรมาสแรกของปี 2025 พวกเขาไม่ใช่แค่มองเห็นภาพรวม—theyคือโครงสร้างพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลง

การใช้งานจริง: เมื่อความเสถียรสู่โลกแห่งความจริง

ผมเคยเห็นโครงการพูดถึง ‘การชำระเงิน’ โดยแอบซ่อนไว้อย่างคลุมเครือ ความจริง? มีความก้าวหน้าจริง ๆ: 🔹 JD-HKD เข้าทดสอบการทำธุรกรรมระหว่างประเทศระหว่างซัพพลายเออร์จากจีนและผู้ซื้อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้—เวลาทำรายการลดจากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่วินาที และค่าธรรมเนียมลดลง ~90% The CEO เขากล่าว: “หลังจากธุรกิจอารมณ์ B2B จะมา C-to-C” —แปลว่า การจองเที่ยวของคุณอาจชำระด้วย JD-HKD โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน 🔹 Jovay blockchain จาก Ant Group ได้อนุมานรายได้มูลค่า $320 ล้านจากสถานีชาร์จพลังงานหมุนเวียน เปิดขาย stablecoin อ้างอิงดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อผลตอบแทนรายปี4.2%บน HashKey Exchange โดยปฏิกิตามกฎ AML/KYC ใช้งานภายในกรอบกฎหมายเมื่อทำอย่างถูกวิธี

พื้นที่เสี่ยง: กับดักใดๆ และว่าทำไมควรหลีกเลียง?

tip: หากแพลตฟอร์มไหนบอกว่าให้อำนาจดอกเบี้ยจาก stablecoin…หนีเลย! กฎหมายห้ามนี้โดยเฉพาะสำหรับโทเคนนอกธนาคาร—and every other major regulator is now clear. หากใครบอก “ได้อายุงานเพียง %6/ปี กับเหรียญ USD-pegged”…ลองถามตนเอง: ตามหลักฐานอะไร? The truth? มีสามโซนมืด: • การออกโทเคนจากชาติตะวันตกโดยไร้วาระบรรณาธิกา—เจาะตลาดฮ่องกง; • การโอนผ่านช่องทางใต้มองเห็น—เสนอค่าธรรมเนียม % เป็นอาการคลาสสิกของการฟอกเงิน; • การใช้งานบัญชียอดแบ๊งค์แผ่นดินใหญ่อัดแน่นในการไหลเวียนคริกโต—เป็นทางไปแน่นอนในการกระโดดร้องเตือน AML จากทั้งจุดกำเนิดและสถาบันในเมืองไทย don’t get caught off guard by convenience traps disguised as innovation.

เคล็ด(ฉบับสมบูรณ): เครื่องประทานสมมาตรสามข้อ (และจริงๆ มันทำงาน)

don’t wait until August 1st to act—but prepare now: 1️⃣ เฝ้าระวังประกาศปล่อยเหรียญ – the HKMA announcements closely; only licensed entities can operate at scale post-August. Pilot programs will reveal which companies advance fastest—and those will likely dominate early adoption cycles.