ความขัดแย้งของ Multi-Chain

Polkadot ให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหาความสามารถในการขยายตัวของ Ethereum โดยกระจายการทำธุรกรรมผ่านเชนคู่ขนานที่เชื่อมต่อกัน แต่เหมือนที่ Joe Petrowski จาก Web3 Foundation กล่าวไว้ที่ Consensus 2021: “การกระจายศูนย์นั้นดีจนกว่าคุณจะต้องแก้ไขบั๊กธุรกรรมข้ามห้าเชน”

มุมมองของนัก Quantitative

จากการออกแบบระบบการซื้อขายแบบอัลกอริทึม ผมชื่นชอบความทะเยอทะยานของ Polkadot Ethereum ทำงานเหมือน CPU แบบ Single-Threaded - สวยงามแต่ติดขัด Polkadot ต้องการเป็นโปรเซสเซอร์ Multi-Core ของบล็อกเชน แต่เหมือนที่วิศวกรทุกคนรู้ การประมวลผลแบบขนานนำปัญหามาของมันเอง: Race Conditions, การ Debug ที่ยากลำบาก และคำถามสำคัญ - คุณจะสร้าง Block Explorer อย่างไรเมื่อธุรกรรมกระจายออกไปเหมือนสะเก็ดระเบิดข้ามหลายเชน?

นับถอยหลังสู่การประมูล

ด้วยการประมูล Parachain ที่ใกล้เข้ามา (ต้องใช้ DOT 1 ล้านเหรียญต่อ Slot) Testnet ของ Polkadot ต้องเร่งความเร็วจาก Block Time 3-4 นาทีให้เหลือเพียง 12 วินาที Petrowski ยืนยันว่าตัวเลขนี้จะเป็นตัวกำหนดตารางการประมูล มันเหมือนกับการดู SpaceX ทดสอบโปรโตคอล Landing จรวดก่อนภารกิจส่งมนุษย์ - ตื่นเต้นถ้าทำได้สำเร็จ

การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการเขียนโปรแกรม

การปฏิวัติที่แท้จริงไม่ใช่รายละเอียดทางเทคนิค แต่เป็นการเปลี่ยนความคิดของนักพัฒนา ดังที่ Petrowski กล่าวไว้ว่า: “สิ่งนี้ต้องการการคิดใหม่ทุกอย่างตั้งแต่ Transaction Finality ไปจนถึง UX ของ Wallet” ลองจินตนาการดูว่าต้องอธิบายให้ TradFi Banker ฟังว่าการ Swap “ง่ายๆ” ของพวกเขาเพิ่งไป Trigger Smart Contract ข้ามสามเชน คงต้องสั่งยาแก้ปวดหัวมาเป็นลัง

สำหรับเพื่อน INTJ ทั้งหลาย: ความท้าทายระดับ Meta? คือการสร้างระบบที่ความซับซ้อนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าอัตราเชิงเส้นเมื่อเพิ่มจำนวนเชน นั่นแหละคือปัญหาการ Optimize ที่คุ้มค่าจะเขียนโค้ดแก้