พายุทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อพอร์ตคริปโต

การดูบิทคอยน์ร่วงจาก 62,000 เหรียญเหลือ 56,000 เหรียญในสัปดาห์นี้ ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปยุค寒冬คริปโตปี 2018 แต่ครั้งนี้สาเหตุมาจากวอชิงตัน ไม่ใช่ Mt. Gox สิ่งที่กระตุ้น? การที่ Kamala Harris มีโอกาสชนะทรัมป์ใน Polymarket ในขณะที่ไม่แสดงท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับคริปโต ในฐานะคนที่ผ่านช่วงขึ้นลงของตลาดมาแล้ว 3 ครั้ง ผมไม่เคยเห็นนักการเมืองส่งผลกระทบต่อตลาดขนาดนี้ตั้งแต่ Elon Musk ทวีตเกี่ยวกับ Dogecoin

ความเป็นกลางที่อันตรายของแฮร์ริส

รองประธานาธิบดีผู้กลายเป็นผู้สมัครเลือกตั้งกำลังเล่นบทนักกำกับที่ไม่ชัดเจน ทั้งเข้าหา Coinbase และ Circle แต่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมหลักเกี่ยวกับคริปโตอย่าง ‘Crypto4Harris’ หรือ Bitcoin 2024 ผู้ติดต่อของผมที่ Galaxy Research ยืนยันว่าคนใกล้ชิดเธอมีบุคคลที่ต่อต้านคริปโตอย่าง Bharat Ramamurti ที่เคยเปรียบเทียบ BTC กับ ‘สินเชื่อซับไพรม์แต่มีบล็อกเชนเป็นประกาย’ ไม่แปลกใจที่นักลงทุนเริ่มถอนตัว เมื่อสามีของผู้สมัครถือครองคริปโตแต่เธอไม่สนับสนุน นั่นไม่ใช่ความไม่แน่นอน—แต่เป็นสัญญาณเตือน

การเปลี่ยนทิศทางของทรัมป์

พูดจริงๆ ชายที่เคยเรียกบิทคอยน์ว่า ‘การหลอกลวง’ ในปี 2021 ตอนนี้รับ BTC เป็นค่าสนีกเกอร์ทองคำ? นั่นคือละครการเมือง แต่สิ่งที่สำคัญคือ คำสัญญาของเขาที่จะปลดหัวหน้า SEC Gensler และรักษาการถือครองบิทคอยน์ของกระทรวงการคลัง สอดคล้องกับผู้ลงคะแนนที่สนับสนุนคริปโต ข้อมูลไม่โกหก—BTC เพิ่มขึ้น 19% หลังคำพูดของเขาใน Milwaukee แม้แต่ลูกชายของเขาก็กำลังเปิดตัวโครงการ DeFi (คุณภาพยังต้องดู) ในทางการเมืองและการเทรด บางครั้งคุณซื้อเรื่องราว ไม่ใช่สินทรัพย์

การเทรดในช่วงวุ่นวาย

ระดับสำคัญที่ต้องจับตา:

• 59,800: ระดับสนับสนุนที่ยังอยู่…สำหรับตอนนี้
• ผลสำรวจคะแนนนิยมของแฮร์ริสในมิชิแกน/เพนซิลเวเนีย: ทุกๆ 1% ที่เพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับการลดลง 0.3% ของ BTC (ใช่ ผมวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว)
• การอภิปรายกันยายน: การกล่าวถึง ‘ห้าม CBDC’ = ความผันผวนทันที คำแนะนำของผม? ใช้เงินสดป้องกันความเสี่ยงจนถึงเดือนตุลาคม นี่ไม่ใช่ FUD—แต่เป็นการยอมรับว่าความเสี่ยงทางการเมืองตอนนี้สำคัญกว่าวัฏจักร halving